รายละเอียดสินค้าลงหัว ห่อหัว
อัตราการใช้
รายละเอียดสินค้าแคลเซียมโบรอน ในไม้ผล พืชล้มลุก
แคลเซียมโบรอน ในพืชลงหัว เช่น หัวหอม กระเทียม กะหล่ำ
สินค้าทั้งหมดสามารถฉีดพ่นได้ทั่วต้น เหมือนฉีดสารป้องกัน-กำจัด หนอน แมลง, โรคพืช, ปุ๋ยเกล็ด ฮอร์โมน หรืออาหารเสริมทั่วไป สามารถผสมฉีดพ่นร่วมกับ สารป้องกัน-กำจัด หนอน แมลง โรคพืช ปุ๋ยเกล็ด ฮอร์โมน และอาหารเสริม โดยไม่ต้องเสียเวลาฉีดพ่นหลายรอบ
ลงหัว
1.เป็นสารหยุดการเจริญเติบโตทางด้านยอดหรือใบของพืชกระตุ้นให้มีการเคลื่อนย้ายอาหารไปสะสมที่รากหรือหัว เร่งการ ลงหัวในพืชตระกูลหัวเร่งการห่อหัวในกะหล่ำและผักกาดหัว ผักกาดขาวปลี เร่งขยายดอกในกะหล่ำดอก2. ช่วยเร่งการลงหัวและขยายขนาดหัว ทำให้พืชลงหัวไว ขนาดใหญ่ สม่ำเสมอ รูปทรงหัวสวย เนื้อแน่น น้ำหนักดี สีสวย เปอร์เซ็นแป้งสูง3. ช่วยให้สามารถเก็บผลผลิตไว้ได้นานหลังการเก็บเกี่ยว หมดปัญหาเรื่อง หัวฝ่อ และเน่าเสียหาย
แคลเซียมโบรอน
เป็นส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์ที่พืชใช้ในการสังเคราะห์แสง ช่วยให้ใบพืชมีสีเขียวเข้มมากขั้น ช่วยในการสร้างพลังงานสูงดูดซึมสารอาหารต่างๆ ไปใช้ได้มากขึ้น ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นพืช และช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุฟอสฟอรัสในพืช เป็นโครงสร้างผนังเซลล์ของพืช ทำให้พืชมีความแข็งแรง และช่วยในการสร้างโปรตีน ช่วยขยายขนาดของผล และป้องกันไม่ให้ผล เถา หรือผักแตก ทำให้เนื้อแน่น ป้องกันแกนไส้นิ่ม รสชาติและสีดีขึ้น ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากลำต้น ใบ มาสู่ผลและเมล็ด สามารถเก็บสะสมอาหาร ผลมีการพัฒนาเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาหลุดร่วงของผลได้ ช่วยในการผสมเกสร ผสมเกสรดี ป้องกันเมล็ดลีบ เพิ่มน้ำหนัก ทำให้พืชนำธาตโพแทสเซียมและธาตุแคลเซียมไปใช้ได้ดีขึ้น มีบทบาทในการย่อยและสังเคราะห์โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต จำเป็นในการแบ่งเซลล์พืช ช่วยในการขนย้ายน้ำตาลทางท่ออาหารในพืช จำเป็นสำหรับการงอกของละอองเรญและการเจริญ เท่อนิวเคลียสของเรญ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูดและคายน้ำและการสังเคราะห์แสง
ควรอ่านคำแนะนำเอกสารกำกับ ผลิตภัณฑ์สารเพิ่มประสิทธิภาพพืชให้เข้าใจก่อน ทุกครั้ง หากไม่เข้าใจ หรือมีปัญหาสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร และกรม ส่งเสริมการเกษตรในท้องถิ่น เพื่อให้การใช้ผลิตภัณฑ์สารเพิ่มประสิทธิภาพพืช มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนดเพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้
1. โดยทั่วไปแล้วปุ๋ยเคมีพ่นทางใบ พืชใช้ประโยชน์ได้น้อย ควรใช้เป็นปุยเสริมกับการใช้ปุ๋ยทางดิน2.ควรพ่นช่วงเช้าหรือเย็น ในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมไม่พดแรงและคาดว่าฝนไม่ตก3.ขณะที่ผ่นต้องพืชต้องไม่เหี่ยวเฉาหรือขาดน้ำ4.การพ่น อย่าให้ถึงเปียกโชกเพราะจะทำให้เสียค่าปุ๋ยเพิ่มขั้นและประสิทธิภาพปุยที่ให้ทางใบเมื่อตกลงดินจะมีประสิทธิภาพเท่ากับปุยที่ใส่ทางดิน5.ควรเก็บรักษาปุยเคมีในภาชนะที่มิดชิดในที่ร่มและแห้ง และควรเก็บปุยเคมีไว้ในที่ปลอดภัย ห่างไกลจากมือเด็ก6.ระวังอย่าให้ถูกผิวหนั่งหรือเข้าตา หากถูกผิวหนังหรือเข้าตาควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที7.ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้น และอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง
COPYRIGHT © 2025 AJANTAR CORP เพื่อนแท้เกษตรกร ALL RIGHT RESERVED