ปัญหาแมลงศัตรูพืชที่เกษตรกรพบเจอ
การปลูกพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันต้องพบกับปัญหาแมลงศัตรูพืชที่หลากหลายและดื้อยา ทั้ง มด ปลวก เพลี้ย หนอน และ แมลงปีกแข็ง สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตอย่างมาก ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ลดผลผลิต แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพและมูลค่าของผลผลิตในตลาด

แมลงศัตรูพืชแต่ละชนิดมีพฤติกรรมการทำลายที่แตกต่างกัน เพลี้ยดูดน้ำเลี้ยงจากใบและยอดอ่อน หนอนกัดกินใบและผล มดและปลวกทำลายรากและลำต้น ส่วนแมลงปีกแข็งมักทำลายผลและเมล็ด การกำจัดที่มีประสิทธิภาพจึงต้องใช้สารที่ครอบคลุมแมลงหลากหลายชนิด


ฟิโพรนิลนวัตกรรมการกำจัดแมลงสูตรเย็น

ฟิโพรนิล (Fipronil) 5% W/V SC เป็นสารกำจัดแมลงกลุ่ม Phenylpyrazole [กลุ่ม 2B] ที่ได้รับการยอมรับจากเกษตรกรทั่วโลกในด้านประสิทธิภาพการกำจัดแมลงที่เหนือกว่า ด้วยสูตรเย็นที่ปลอดภัย สามารถใช้ได้แม้ในช่วงดอกบานและผลอ่อน


คุณสมบัติเด่นของฟิโพรนิล

  • สูตรเย็น ปลอดภัยต่อพืช: เป็นยาเย็น ทำให้สามารถ ฉีดผ่านดอก ผลอ่อน และใบอ่อนได้โดยไม่เกิดความเสียหาย เหมาะสำหรับการใช้ในทุกช่วงการเจริญเติบโตของพืช
  • สูตรเข้มข้นสูง แทรกซึมเร็ว: ด้วยความเข้มข้น 5% W/V SC ทำให้แทรกซึมเข้าสู่ระบบของแมลงได้เร็ว ถูกตัวตาย และกินตาย มีประสิทธิภาพสูงแม้ใช้ในปริมาณน้อย
  • ออกฤทธิ์เร็ว แรง เข้มข้น คุมนาน: เมื่อใช้แล้วจะเห็นผลในระยะเวลาสั้น และสามารถคุมการระบาดได้ยาวนาน ลดความถี่ในการฉีดพ่น


ฟิโพรนิลกำจัดได้

  • เพลี้ยทุกชนิด
    เพลี้ยหอย: แมลงดูดน้ำเลี้ยงที่สร้างความเสียหายให้ใบไม้เหลือง
    เพลี้ยแป้ง: เพลี้ยสีขาวที่ปกคลุมด้วยผงแป้งสร้างความเสียหายให้ยอดอ่อน
    เพลี้ยไฟ: แมลงเล็กที่ทำลายใบและส่งผลต่อการสังเคราะห์แสง
    เพลี้ยไก่แจ้: เพลี้ยที่มีลักษณะพิเศษและดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช
    เพลี้ยจักจั่น: แมลงที่ส่งเสียงดังและทำลายกิ่งไม้
    เพลี้ยดื้อยา: เพลี้ยที่ต้านทานต่อสารเคมีทั่วไป

  • หนอนและแมลงปีกแข็ง
    หนอนดื้อยา: หนอนที่มีความต้านทานสูงต่อสารเคมี
    ด้วง: แมลงปีกแข็งที่ทำลายผลและเมล็ด
    แมลงปีกแข็ง: กลุ่มแมลงที่มีปีกแข็งปกคลุมลำตัว
    แมลงค่อมทอง: แมลงที่ทำลายใบและยอดอ่อน

  • แมลงในดินและแมลงโซเชียล
    มด: แมลงโซเชียลที่ทำลายรากและสร้างปัญหาในการเพาะปลูก
    ปลวก: สามารถกำจัดปลวกให้ตายยกรังได้ เนื่องจากเป็นสารเคมีกำจัดปลวก
    แมลงในดิน: แมลงที่อาศัยในดินและทำลายรากพืช

วิธีการใช้ฟิโพรนิลให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
อัตราการใช้

  • อัตราใช้ : 20-50 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร โดยสามารถปรับอัตราตามความรุนแรงของการระบาด:
  • การป้องกัน: 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
  • การกำจัดเบื้องต้น: 25-30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
  • การระบาดรุนแรง: 40-50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร


เทคนิคการฉีดพ่น

  • เวลาที่เหมาะสม: ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าตรู่หรือเย็น เมื่อแมลงออกหากินและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป
  • การเตรียมสารละลาย: ผสมฟิโพรนิลกับน้ำสะอาดตามอัตราที่กำหนด คนให้เข้ากันดี และใช้ทันทีหลังการผสม
  • เทคนิคการพ่น: ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งใต้ใบ บนใบ ลำต้น และโคนต้น เพื่อให้ครอบคลุมที่อยู่อาศัยของแมลง
    ข้อควรระวังในการใช้
  • สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลครบถ้วน
  • หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในวันที่มีลมแรงหรือฝนตก
  • เก็บภาชนะให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง


การใช้ฟิโพรนิล

การกำจัดปลวกในสวนผลไม้

  • เมื่อรู้ตัวว่าโดนปลวกเล่นงานแล้ว ก็เริ่มหาวิธีกำจัด เกษตรกรหลายรายรายงานความสำเร็จในการใช้ฟิโพรนิลกำจัดปลวกที่ทำลายรากไม้ผล โดยสามารถกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระยะเวลาสั้น

การควบคุมเพลี้ยในแปลงผัก

  • เกษตรกรผู้ปลูกผักใบเขียวหลายรายใช้ฟิโพรนิลสำหรับควบคุมเพลี้ยที่ดื้อยา พบว่าสามารถลดปริมาณการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การป้องกันแมลงปีกแข็งในไม้ผล

  • ในสวนมะม่วงและลำไย การใช้ฟิโพรนิลช่วยป้องกันแมลงปีกแข็งที่ทำลายผล ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีขึ้น


ฟิโพรนิล 5% W/V SC สูตรเย็นในการจัดการแมลงศัตรูพืช ด้วยความสามารถในการกำจัด มด ปลวก เพลี้ย หนอน และ แมลงปีกแข็ง ได้อย่างครบวงจรในผลิตภัณฑ์เดียว ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก

การใช้ในอัตรา 20-30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทำให้เกษตรกรสามารถใช้งานได้อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะคุณสมบัติสูตรเย็นที่สามารถฉีดผ่าดอก ผลอ่อน และใบอ่อนได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง
สำหรับเกษตรกรที่ต้องการแก้ปัญหาแมลงศัตรูพืชอย่างจริงจัง ฟิโพรนิลจึงเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณา ด้วยการออกฤทธิ์เร็ว แรง เข้มข้น และคุมนาน ทำให้การเพาะปลูกมีประสิทธิภาพมากขึ้นและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง
การใช้ฟิโพรนิลร่วมกับการจัดการแบบผสมผสาน (IPM) จะช่วยให้เกษตรกรมีเครื่องมือในการจัดการแมลงศัตรูพืชที่ครอบคลุมและยั่งยืน 

^

COPYRIGHT © 2025 AJANTAR CORP เพื่อนแท้เกษตรกร ALL RIGHT RESERVED